การรู้เท่าทันดิจิทัล: วิธีระบุของปลอม

ในฐานะผู้นำองค์กรภาคประชาสังคม คุณสามารถทำบางอย่างเพื่อป้องกันการแพร่กระจายข้อมูลเท็จ บทความนี้มีเคล็ดลับในการป้องกันการแพร่กระจายข้อมูลเท็จและข่าวปลอม

ผู้สื่อข่าวได้รับการฝึกฝนให้พิจารณาว่าข้อมูลแต่ละชิ้นเป็นความจริงหรือไม่ก่อนที่จะเผยแพร่อะไรออกไป ประชาชนทั่วไปมักไม่ได้รับการฝึกฝนเช่นนี้ แต่ก็มีอำนาจอย่างมากในการเผยแพร่ข้อมูล เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างขวางบวกกับความเร็วของโซเชียลมีเดียทำให้ข้อมูลเท็จสามารถแพร่กระจายเหมือนไฟลามทุ่ง บางครั้งก็ลุกลามเข้าสู่ชีวิตจริงพร้อมกับสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง

ในฐานะผู้นำองค์กรภาคประชาสังคม คุณสามารถทำบางอย่างเพื่อป้องกันการแพร่กระจายข้อมูลเท็จ คุณควรจะ:

  • ส่งเสริมการรู้เท่าทันดิจิทัลภายในเครือข่ายของคุณ 
  • ให้ความรู้ผู้รับสารของคุณเกี่ยวกับอันตรายของข่าวปลอม 
  • แสดงให้ผู้รับสารเห็นวิธีตัดสินว่าอะไรคือข้อมูลจริงและอะไรคือข้อมูลปลอม

เราทุกคนล้วนมีพลังที่จะหยุดการแพร่กระจายของอันตรายที่เกิดจากการแชร์ข้อมูลปลอม 

ข่าวปลอมคืออะไร

ข่าวปลอมคือข้อมูลเท็จที่ทำให้ดูเหมือนจริง เป็นเรื่องที่ทำให้เข้าใจผิดและหลอกลวงเพราะดูเหมือนเป็นเรื่องจริง

ทำไมข่าวปลอมถึงถูกสร้างขึ้น

การรู้แค่ว่าอะไรที่เป็นข้อมูลปลอมนั้นไม่พอ เราต้องเข้าใจด้วยว่าทำไมถึงมีข้อมูลเท็จ บางครั้งก็เป็นแค่ข่าวสารที่ไร้คุณภาพ ซึ่งไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง

แต่ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ข่าวปลอมถูกสร้างขึ้น คือ:

– เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ปลุกปั่นความคิดเห็นของสาธารณชนหรือทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสื่อมเสีย

– เพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน เพิ่มรายได้จากการโฆษณาโดยการส่งเสริมให้แชร์บนโซเชียลมีเดีย

– เพื่อหลอกลวงประชาชนให้ซื้อสินค้าและบริการบางอย่าง

– เพื่อแผ่ขยายความกลัวและอคติและสร้างความไม่มั่นคง 

ข้อมูลเท็จกับการบิดเบือนข้อมูล 

ข้อมูลเท็จ คือ ข่าวลือ การดูหมิ่น และการเล่นพิเรนทร์

การบิดเบือนข้อมูล คือ การแต่งเรื่องให้เข้าใจผิดและวางแผนให้คุณคิดและทำบางสิ่ง เช่น โฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองออนไลน์ หรือข้อมูลต่อต้านวัคซีน

เคล็ดลับดี ๆ

คุณอาจแพร่กระจายข่าวปลอมโดยไม่ได้ตั้งใจ หากมีคนแฮ็กบัญชีของคุณและแอบอ้างว่าเป็นคุณ! จงดูให้แน่ใจว่าคุณมีรหัสผ่านที่คาดเดายากซึ่งบุคคลอื่นไม่สามารถแฮ็กได้

เท็จ กับ จริง

ลองดูภาพเหล่านี้ ภาพหนึ่งปลอมและอีกภาพหนึ่งจริง ลองนึกดูว่าง่ายแค่ไหนที่คนจะเชื่อว่าภาพถ่ายทางด้านซ้ายเป็นของจริง ถ้าพวกเขาได้รับภาพทางโทรศัพท์

วิธีที่จะบอกได้ว่าอะไรจริงอะไรปลอม

สิ่งสำคัญที่คุณต้องทำเพื่อตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือของปลอมมี 2 สิ่ง คือ:

1. ตรวจสอบแหล่งที่มา

ใครเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลนั้น ผู้ที่เผยแพร่ได้รับข้อมูลนั้นมาจากที่อื่นหรือไม่ ตัดข้อความจากข้อมูลนั้นมาหนึ่งย่อหน้า แล้วนำไปวางในเครื่องมือค้นหาเพื่อดูว่าข้อมูลนั้นปรากฏที่อื่นบนอินเทอร์เน็ตหรือไม่

และคุณยังสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของภาพโดยการค้นหาย้อนกลับบน Google วิธีนี้จะแสดงให้คุณเห็นว่าภาพนั้นปรากฏอยู่ที่ใดบนอินเทอร์เน็ตอีกบ้าง ภาพถ่ายนั้นเดิมเป็นภาพสต็อกหรือเปล่า ภาพนั้นมีการใช้งานมาแล้วหลายครั้งหรือเปล่า

สิ่งสำคัญคือทำการค้นหา 2-3 ครั้งจนกว่าคุณจะพอใจว่าพบแหล่งที่มาดั้งเดิมแล้ว หากไม่มั่นใจ ให้คิดว่าเป็นข้อมูลที่น่าสงสัยไว้ก่อน อย่าเพิ่งส่งต่อ

2. พยายามคิดวิเคราะห์

ถามตัวเองว่าข้อมูลนั้นพยายามให้คุณทำอะไร

ข้อมูลนั้นพยายามให้คุณทำสิ่งเหล่านี้หรือไม่:

  • ซื้อของ
  • แชร์ให้เยอะ ๆ ในเครือข่ายของคุณ
  • คิดหรือทำบางอย่าง

คำตอบอาจบอกคุณได้ว่าข้อมูลนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม หากคุณยังมีข้อสงสัย ให้ค้นหาเพิ่มเติมหรืออย่าส่งต่อข้อมูล

เราควรคิดด้วยว่า ทำไมเราถึงส่งข้อมูลให้คนอื่น คุณแชร์เพราะเหตุต่อไปนี้หรือไม่

  • คุณกลัวและต้องการเตือนคนอื่น ๆ
  • คุณรู้สึกโกรธแค้นและต้องการสร้างความโกรธแค้นมากขึ้น 
  • คุณต้องการเป็นคนแรกที่แชร์ความรู้นี้ เพื่อให้ตัวเองดูรอบรู้มากขึ้น

การหยุดและไตร่ตรองสักครู่ก่อนที่คุณจะกดส่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ และหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลสืบเนื่องที่ไม่ได้ตั้งใจ

อินโฟกราฟิกที่มีประโยชน์นี้จะแสดงขั้นตอนในการตัดสินใจว่าข้อมูลนั้นเป็นของจริงหรือของปลอมก่อนที่คุณจะแชร์ให้ผู้อื่น

ดาวน์โหลดได้ที่นี่เพื่อแชร์กับชุมชนของคุณ

เข้าร่วมชุมชนของเราบน Facebook

เข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนในระดับกว้างของเราผ่านเพจ Facebook ของเรา

Go to Facebook